มาร์กฮิวส์ ผู้เล่นคนสำคัญในนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ ปี1985 ของทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

มาร์กฮิวส์ วันนี้จะพามารู้จักกับอีกหนึ่ง นักเตะคนสำคัญของทัพผีแดง ที่เหล่าแฟนบอลจดจำได้เป็นอย่างดี

มาร์กฮิวส์ หรือ เลสลี มาร์ก ฮิวส์ (อังกฤษ: Leslie Mark Hughes) นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ มีชื่อเล่นในวงการฟุตบอลว่าสปาร์กี้ เป็นอดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ ปัจจุบันเป็นผู้จัดการทีมให้กับแบรดฟอร์ดซิตี ในอีเอฟแอลลีกทู เขาเคยเป็นผู้จัดการทีมหลายสโมสร ได้แก่ แบล็กเบิร์นโรเวอส์, แมนเชสเตอร์ซิตี, ฟูลัม, ควีนส์พาร์กเรนเจอส์, สโตกซิตี และเซาแทมป์ตัน ผลงานในการรับใช้ชาติของเขา คือการลงเล่นให้ทีมชาติเวลส์ 72นัด และยิงประตูได้ 16ประตู

ในช่วงชีวิตการเป็นนักฟุตบอลของเขานั้น ผู้คนจดจำเขาได้เป็นอย่างดีจากการลงเล่น ให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทั้ง2ช่วงแต่เขากลับไม่ประสบความสำเร็จนัก เมื่อต้องออกไปค้าแข้งในต่างแดนกับ บาร์เซโลนาในสเปน และไบเอิร์นมิวนิกในเยอรมนีตะวันตก อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด นอกจากนี้ที่อังกฤษเขายังเคยเล่นให้ สโมสรเชลซี, เซาแทมป์ตัน, เอฟเวอร์ตัน และสโมสรสุดท้ายที่เขาลงเล่น คือแบล็กเบิร์นโรเวอส์ ก่อนที่เขาจะเลิกเล่นอย่างเป็นทางการในปี2002 ดูบอลออนไลน์

มาร์กฮิวส์

มาดูถึงเส้นทางค้าแข้งของ มาร์กฮิวส์ ว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง? ก่อนจะมีชื่อเสียงอย่างมากมาย

มาร์กฮิวส์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ได้เข้าร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด หลังออกจากโรงเรียนในปี1980 แต่ยังไม่ได้ลงเล่นในทีมชุดแรก เหมือนผู้เล่นคนอื่นจากนั้น เมื่อเขาได้รับโอกาสให้ลงสนามนัดแรก เขาก็ยิงประตูได้ทันที และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่อย่างเต็มตัว และเขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญ ในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอคัพปี1985 ที่ทีมของเขาเอาชนะเอฟเวอร์ตันได้1-0 และคว้าแชมป์ในที่สุด ปี1986ฮิวส์ย้ายทีมอย่างเป็นที่ตื่นตะลึง เมื่อเทอร์รี่ เวนาเบิลส์

ผู้จัดการทีมของบาร์เซโลนา ในเวลานั้นจ่ายเงินถึง2ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีม พร้อมกับความหวังที่จะให้เขาเป็น คู่หูชั้นยอดของ แกรี่ ลินิเกอร์ กองหน้าของทีม แต่ฮิวส์ต้องพบกับความผิดหวัง เมื่อไม่อาจงัดฟอร์มเก่งออกมาได้ และอยู่กับทีมเพียงหนึ่งฤดูกาล จึงย้ายไปร่วมทีมไบเอิร์นมิวนิก ในประเทศเยอรมันตะวันตก ด้วยสัญญายืมตัว ในฤดูกาล1987-1988 ในเดือนพฤษภาคมปี1988

มาร์กฮิวส์ กลับมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด อีกครั้งภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันผู้จัดการทีมคนใหม่ ด้วยค่าตัว1ล้าน8แสนปอนด์ และการกลับมายัง โอลด์ แทรฟฟอร์ด หนนี้เขาทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และกลายเป็นดาวยิงคนสำคัญของทีม เขาได้รับเลือกให้เป็นนักฟุตบอล ยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ในฤดูกาล1988-1989 ซึ่งเป็นปีแรกที่เขากลับมา อังกฤษอีกครั้งแต่สโมสร ยังมีผลงานไม่ดีนัก

เมื่อจบฤดูกาลด้วยอันดับที่11 ปีต่อมาเขายิงคนเดียว2ประตูใส่ คริสตัล พาเลซ ในเอฟเอคัพนัดชิงชนะเลิศ ซึ่งเสมอกันไป3-3 ก่อนที่ ลี มาร์ติน จะยิงประตูชัยในนัดแข่งใหม่ ส่งผลให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด คว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ5ปี และในฤดูกาล1990-1991 เขายิงประตูใส่บาร์เซโลนา ทีมเก่าของเขาส่งผลให้ทีมได้แชมป์ ยูฟ่า คัพ วินเนอร์สคัพ และเขายังพาทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศลีกคัพ

แต่ทีมกลับพลิกล๊อคพลาดท่าให้กับ เชฟฟิลด์ เว้นส์เดย์ ในนัดชิงชนะเลิศ 1-0 ฤดูกาล1991-1992 ฮิวส์ต้องพลาดเหรียญแชมป์ลีกสูงสุด อย่างน่าเสียดายเมื่อ ลีดส์ ยูไนเต็ด เข้าป้ายอันดับที่1เมื่อจบฤดูกาล แต่ทีมของเขาก็ยังคว้าแชมป์ลีกคัพ นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ มาครองได้สำเร็จเป็นรางวัลปลอบใจ เมื่อสามารถเอาชนะ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ ได้ในนัดชิงชนะเลิศ1-0 จากประตูชัยของ ไบรอัน แม็คแคลร์ เจ้าของฉายาเอริกเดอะคิง

มาร์กฮิวส์

ผลงานของมาร์กฮิวส์ ในฤดูกาล1992-1993

ในที่สุดฤดูกาล1992-1993 นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ เขาก็คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกกับ สโมสรได้เป็นครั้งแรก และในปี1993-1994เขาก็ยังเป็น กำลังสำคัญที่ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดคว้าดับเบิ้ลแชมป์ โดยทีมสามารถป้องกันแชมป์ลีก และยังคว้าแชมป์เอฟเอคัพ โดยในถ้วยเอฟเอคัพ ฮิวส์เป็นหนึ่งในนักเตะที่ยิงประตูใน นัดชิงชนะเลิศที่ชนะเชลซี 4-0 ฤดูกาล1994-1995 ทีมทำท่าว่าจะสร้างผลงาน อันสุดยอดเมื่อมีลุ้นคว้าดับเบิ้ลแชมป์ อีกสมัย

โดยในลีกทีมต้องแย่งแชมป์กับ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ และยังสามารถเข้าถึง รอบชิงชนะเลิศในถ้วย เอฟเอคัพ ได้สำเร็จแต่ทีมกลับต้องพบกับ ความผิดหวังเมื่อในนัดสุดท้าย ของพรีเมียร์ลีกทำได้เพียงแค่เสมอกับ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้แบล็กเบิร์นโรเวอส์ คว้าแชมป์ลีกไปครองโดยมีคะแนน มากกว่าแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เพียงแค่แต้มเดียวเท่านั้น ส่วนในเอฟเอคัพทีมต้องชิงแชมป์กับ เอฟเวอร์ตัน

แต่ก็ต้องผิดหวังซ้ำสองเมื่อ พอล ไรด์เอาท์ นักเตะทีมเอฟเวอร์ตัน ยิงประตูชัยพาเอฟเวอร์ตัน คว้าแชมป์ในที่สุดและฤดูกาลนั้น เป็นปีสุดท้ายของเขาในโอลด์ แทรฟฟอร์ด การมาถึงของ แอนดี โคล ทำให้เขาต้องพบกับความยากลำบาก นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ ในการเป็นผู้เล่นตัวจริง เขาจึงตัดสินใจย้ายทีมไปเล่นให้กับ เชลซี ด้วยค่าตัว1ล้าน8แสนปอนด์ โดยเขาย้ายออกจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในเวลาเดียวกับ พอล อินซ์ และอังเดร แคนเชสกี้

ซึ่งย้ายออกไปร่วมทีมอินเตอร์ มิลาน และเอฟเวอร์ตัน อย่างไรก็ดีการขายผู้เล่นคนสำคัญ ในทีมออกถึง3รายกลับไม่ส่งผล ต่อกระทบแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมากนัก เมื่อทีมคว้าดับเบิ้ลแชมป์ได้อีกสมัย ในฤดูกาล1995-1996 มาร์กฮิวส์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักของ เชลซี โดยคู่หูในแดนหน้าของเขาคือ จิอันฟรังโก้ โซล่า ในฤดูกาล1996-1997 เขาสามารถคว้าแชมป์เอฟเอคัพ ร่วมกับทีมได้สำเร็จเมื่อเอาชนะ มิดเดิลสโบรช์ 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ

ในฤดูกาล1998-1999 ย้ายมาร่วมทีมเซาแทมป์ตัน

ฤดูกาล1998-1999 มาร์กฮิวส์ อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ย้ายมาร่วมทีมเซาแทมป์ตัน ด้วยค่าตัว6แสน5หมื่นปอนด์ ภายใต้การคุมทีมของ เดฟ โจนส์ ด้วยวัยที่มากขึ้นทำให้เขายิงประตูไม่มาก เหมือนเมื่อก่อนจึงปรับเปลี่ยนไปเล่น ตำแหน่งกองกลาง ประสบการณ์ของเขายังช่วยทีมได้มาก สำหรับการต่อสู้ในพรีเมียร์ลีก2ประตู ที่เขาทำได้เกิดขึ้นในเกมส์พบ แบล็กเบิร์นโรเวอส์ ซึ่งเป็นทีมที่เขาย้ายไปเล่น ให้ในเวลาต่อมา

และเกมส์พบ นิวคาสเซิ่ลยูไนเต็ด ในวันที่15สิงหาคม1999 ซึ่งเป็นลูกวอลเล่ย์สุดสวย ที่อยู่ในความทรงจำของแฟนบอลหลายคน โดยในฤดูกาล1998-1999 ฤดูกาลแรกของเขากับทีม เขาได้รับใบเหลืองถึง14ใบ ซึ่งมากที่สุดในพรีเมียร์ลีก ในเดือนสิงหาคมปี1999 เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมชาติเวลส์ ในขณะที่ยังไม่ได้แขวนสตั๊ด เมื่อ เกล็น ฮ็อดเดิ้ล กลายเป็นผู้จัดการทีมคนใหม่ของ เซาแทมป์ตัน

มาร์กฮิวส์ นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ ในวัย36ปีก็กลายเป็นนักเตะ ที่ไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีม เขาจึงย้ายไปร่วมทีม เอฟเวอร์ตัน และมีบทบาทในฐานะผู้เล่นน้อยลงตามวัย แต่ยังคงทำหน้าที่เป็นผู้จัดการ ทีมชาติเวลส์ต่อไปและเขาตัดสินใจ ย้ายมาเล่นในลีกระดับล่างเป็นครั้งแรก ในฤดูกาล2000-2001

มาร์กฮิวส์ในอาชีพผู้จัดการทีม แบล็กเบิร์นโรเวอส์

แม้จะทำผลงานได้ดีกับทีมชาติเวลส์ นักเตะปีศาจแดงฉายาสปาร์กี้ แต่ฮิวส์ก็ลาออกจากตำแหน่ง ผู้จัดการทีมชาติในเดือนกันยายนปี2004 เพื่อไปรับงานคุมทีม แบล็กเบิร์นโรเวอส์ทีมเก่าของเขา ในพรีเมียร์ลีกอย่างเต็มตัวหลังจาก เขานั่งควบ2ตำแหน่งทั้งผู้จัดการทีมชาติเวลส์ และผู้จัดการชั่วคราวของ แบล้คเบิร์น โรเวอร์สในปลายฤดูกาล2003-2004 ผลงานของเขาในปีนั้นคือการพาทีม รอดจากการตกชั้นและนำสโมสร เข้าถึงรอบ4ทีมสุดท้าย

ในเอฟเอคัพได้เป็นครั้งแรกในรอบ40ปี ฤดูกาล2004-2005 ปีที่2ของเขากับทีม ฮิวส์นำแบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ6 อย่างเหลือเชื่อและได้ไปเล่นยูฟ่า คัพเมื่อจบฤดูกาล โดยในลีกทีมของเขาสามารถเอาชนะ เชลซี, และชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ทั้งนัดเหย้าและนัดเยือน รวมทั้งยังสมารถเอาชนะอาร์เซนอลได้ สำเร็จและทีมของเขายังเข้าไป ชิงชนะเลิศถ้วยลีกคัพก่อนจะแพ้เชลซี ไป1-0ทำให้ได้แค่รองแชมป์

การสร้างทีมของเขาในอีวู้ด ปาร์คนั้นเขาได้ซื้อตัวผู้เล่นคนสำคัญ ของทีมเช่นเบนนี่ แม็คคาร์ธี่ย์ (2ล้านปอนด์),เดวิด เบนท์ลี่ย์ (5แสนปอนด์),ไรอัน เนลเซ่น (ฟรี) รวมถึงการได้ยอดกองหน้าอย่าง โรเก้ ซาน ตา ครูซ (3ล้าน5แสนปอนด์) และกองหลังจอมโหดอย่าง คริสโตเฟอร์ แซมบ้า (4แสนปอนด์) แบล็กเบิร์นจบฤดูกาลด้วยอันดับ10 ในฤดูกาล2006-2007 และผ่านเข้าถึงรอบน็อคเอาท์ ในศึกยูฟ่าคัพ

ก่อนจะแพ้ ไบเออร์เลเวอร์คูเซ่น ด้วยประตูรวม3-2 ส่วนในเอฟเอคัพเขาพาทีมเข้าถึง รอบรองชนะเลิศได้อีกครั้งและเป็น ครั้งที่3ของทีมนับแต่ฮิวส์เข้ารับตำแหน่ง และฤดูกาลนั้นเขาได้รับเลือกให้เป็น ผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำเดือนตุลาคม อดีตนักฟุตบอลทีมชาติเวลส์ของแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ฤดูกาล2007-2008 ฮิวส์พาทีมเก็บชัยชนะได้ถึง15นัด และจบฤดูกาลด้วยอันดับ7 โดย โรเก้ ซาน ตา ครูซ กองหน้าที่เขาซื้อมายิงประตูในลีก ได้ถึง19ประตูในฤดูกาลแรกที่มาร่วมทีม